การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหลังสวน
การประปาส่วนภูมิภาคเขต ๔

สาระน่ารู้



สาระน่ารู้เกี่ยวกับเมล็ดมะขาม

การศึกษาการใช้ผงแป้งเมล็ดมะขาม เป็นสารช่วยสร้างตะกอน ร่วมกับสารส้ม เพื่อลดความขุ่นของน้ำ     การศึกษาการใช้สารแขวนลอยผงแป้งเมล็ดมะขาม เป็นสารช่วยสร้างตะกอนร่วมกับสารส้ม เพื่อลดความขุ่นของน้ำ ด้วยวิธีจาร์เทสต์ ที่ระดับความขุ่นน้ำดิบ 50 100 และ 150 NTU พีเอช 6.5 และ 7.5 ตามลำดับ โดยใช้สารแขวนลอย ผงแป้งเมล็ดมะขามชนิดเปรี้ยวและชนิดหวานในลำดับการเติม สารแขวนลอยผงแป้งเมล็ดมะขามก่อนหรือหลังการเติมสารส้ม เพื่อหาปริมาณความเข้มข้น ชนิด และลำดับการเติมสารแขวนลอย ผงแป้งเมล็ดมะขามที่เหมาะสม ที่เติมร่วมกับปริมาณ 50% 40% และ 30% ตามลำดับ ของความเข้มข้นสารส้มที่เหมาะสม เพื่อลดความขุ่นของน้ำให้เหลืออยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ไม่เกิน 5 NTU ผลการทดลองพบว่า การใช้สารแขวนลอยผงแป้งเมล็ดมะขามชนิดเปรี้ยว เป็นสารช่วยสร้างตะกอนร่วมกับปริมาณ 50% 40% และ 30% ตามลำดับของความเข้มข้นสารส้มที่เหมาะสม จะมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณความขุ่นของน้ำสูงกว่า การใช้สารส้มในปริมาณดังกล่าวร่วมกับสารแขวนลอยผงแป้งเมล็ดมะขามชนิดหวาน โดยมีลำดับการเติมสารแขวนลอยผงแป้งเมล็ด มะขามชนิดเปรี้ยวหลังการเติมสารส้ม เป็นลำดับการเติมที่ เหมาะสม นอกจากนี้ยังพบว่า ที่ระดับความขุ่นของน้ำดิบ 50 NTU พีเอช 6.5 และ 7.5 ตามลำดับ การใช้สารแขวนลอยผงแป้งเมล็ดมะขามชนิดเปรี้ยว ไม่สามารถลดค่าความขุ่นของ น้ำให้เหลืออยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (ไม่เกิน 5 NTU) ได้ เมื่อน้ำดิบมีความขุ่น 100 NTU และ 150 NTU ที่ค่าพีเอช 6.5 การใช้สารแขวนลอยผงแป้งเมล็ดมะขามชนิดเปรี้ยว สามารถลดค่าความขุ่นของน้ำให้เหลืออยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 5 NTU ได้โดยช่วยให้ประหยัดการใช้สารส้มลงได้ถึง 50% และเมื่อน้ำดิบมีความขุ่น 100 NTU และ 150 NTU ที่ค่าพีเอช 7.5 การใช้สารแขวนลอยผงแป้งเมล็ดมะขามชนิดเปรี้ยว สามารถลดค่าความขุ่นของน้ำให้เหลืออยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 5 NTU ได้เช่นเดียวกัน โดยช่วยให้ประหยัดการใช้สารส้ม ลงได้ถึง 60% จากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ สรุปได้ว่า การใช้สาร แขวนลอยผงแป้งเมล็ดมะขามชนิดเปรี้ยวเป็นสารช่วยสร้าง ตะกอนร่วมกับสารส้ม โดยเติมภายหลังการเติมสารส้ม เพื่อ ลดความขุ่นของน้ำให้เหลืออยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 5 NTU เหมาะ สำหรับน้ำดิบที่มีระดับค่าความขุ่นระหว่าง 100-150 NTU ที่ค่าพีเอช 6.5 และ 7.5 ตามลำดับ เพราะสามารถช่วย ประหยัดการใช้สารส้มลงได้มากกว่า 50% ขึ้นไป โดยไม่ ทำให้ค่าพีเอชและค่าความเป็นด่างของน้ำดิบเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต น้ำประปาลงได้ 

*เรามากินมะขามเปรี้ยวกันเยอะๆ เดี๋ยวเอาเมล็ดไปทำผงแป้งใช้ร่วมกับสารส้มดีมั้ย 

การใช้น้ำอย่างถูกวิธี

อาบน้ำ ควรใช้ขันตักอาบหรือใช้ฝักและในขณะทำการฟอกสบู่ควรปิดก๊อกน้ำไว้ก่อน จะช่วยประหยัดการใช้น้ำและประหยัดมากกว่าอาบด้วยอ่างอาบน้ำ ที่จะสูญเสียน้ำมากถึง 200 ลิตรต่อคนต่อครั้ง การอาบด้วยขันตักอาบหรือฝักบัวจะใช้น้ำประมาณ 20-30 ลิตร ต่อคนต่อครั้งเท่านั้น
โกนหนวด ควรใช้ภาชนะรองน้ำไว้หรือเปิดก๊อกน้ำเพื่อใช้แค่เพียงพอในการโกนหนวดแต่ละครั้งและเปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างหน้า เมื่อโกนเสร็จจะใช้น้ำเพียง 5 ลิตร ไม่ควรเปิดน้ำให้ไหลตลอดเวลาที่ทำการโกนหนวด
การแปรงฟัน ในขณะแปรงฟัน ไม่ควรเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ จะทำให้น้ำไหลสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ในระยะเวลาที่แปรงฟัน 5 นาที อาจจะสูญเสียน้ำมากถึง 40 ลิตร ดังนั้นควรใช้ภาชนะรองน้ำไว้หรือเปิดน้ำใช้หลังแปรงฟันเสร็จ จะใช้น้ำเพียง 5-8 ลิตร
ชักโครก ชักโครกเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน แต่การใช้ชักโครกแต่ละครั้งจะใช้ปริมาณน้ำ 8-12 ลิตร ดังนั้น ควรใช้ถุงบรรจุน้ำหรืออิฐมาใส่ในโถน้ำเพื่อลดการใช้น้ำ หรือเปลี่ยนมาใช้ชักโครกแบบประหยัดน้ำ และควรใช้โถปัสสาวะเมื่อต้องการปัสสาวะ
ซักผ้า ควรรวบรวมผ้า ให้ได้มากพอต่อการซักแต่ละครั้งเพาะการซักผ้าต้องใช้น้ำมากและขณะทำการซักไม่ควรเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ตลอดเวลา หากเปิดน้ำทิ้งไว้ระยะเวลา 15 นาที จะเสียน้ำถึง 200-500 ลิตร และการซักด้วยเครื่องซักผ้าก็ควรรวบรวมผ้าให้พอต่อกำลังของเครื่อง
ล้างถ้วยชามภาชนะ ควรทำการเช็ดถ้วยชามภาชนะที่เปื้อนเศษอาหาร คราบไขมัน ก่อนทำการล้าง จะช่วยลดการใช้น้ำได้มากกว่าการใช้น้ำฉีดไล่เศษอาหาร ในขณะทำการล้างไม่ควรเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ ควรเปิดใสอ่างไว้ล้างและเพื่อความสะอาดสามารถล้างครั้งที่ 2 ได้โดยจะเสียน้ำเพียง 15-20 ลิตร
ล้างผัก-ผลไม ควร เปิดน้ำใส่ภาชนะให้ได้ปริมาณมากพอที่จะล้าง ไม่เปิดก๊อกน้ำให้ไหลตลอดเวลาล้างจะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำได้ ยกเว้นผักผลไม้บางประเภทที่ต้องให้น้ำไหลผ่านเพื่อชำระสารเคมีที่อาจติดมา ได้และน้ำที่เหลือสามารถนำไปรดต้นไม้หรือใช้อย่างอื่นได้
เช็ดถูบ้าน ควร ใช้ภาชนะใส่น้ำแล้วใช้เครื่องมือจุ่มเพื่อล้างทำความสะอาดจะประหยัดกว่าการ รองน้ำจากก๊อกเพื่อทำความสะอาดเครื่องมือสำหรับเช็ดถูบ้าน และไม่ควรใช้สายยางฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาดบริเวณลานบ้าน หรือที่จอดรถจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมาก ควรใช้วิธีการกวาด
รดน้ำต้นไม้ ควรใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการใช้สายยางที่จะสูญเสียน้ำในปริมาณมากในแต่ละครั้ง และในพื้นที่มาก ๆ ก็ควรใช้ สปริงเกลอร์ หรือจะใช้น้ำที่เหลือจากกิจกรรมอื่นมารดต้นไม้ก็จะช่วยให้ประหยัดการใช้น้ำลงได้ถือเป็นการใช้น้ำอย่างถูกวิธี
ล้างรถ ควรใช้ภาชนะใส่น้ำและใช้ผ้าหรือเครื่องมือจุ่มแล้วทำความสะอาดรถ จะช่วยลดการใช้น้ำได้มากกว่าที่จะใช้สายยางฉีดน้ำโดยตรง ที่จะเสียน้ำเป็นปริมาณมากถึง 200 ลิตร ในระยะเวลา 15 นาที

This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free